วันจันทร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2566

 


สุนทรพจน์ของ พลเอก จอร์จ แพ็ตตัน

รวบรวมจากเอกสารของกำลังพลกองทัพสนามที่ 3 ที่บันทึกไว้ระหว่างรับฟังสุนทรพจน์ของพลเอก จอร์จ แพ็ตตัน ที่ให้แก่หน่วยในบังคับบัญชา (ไม่มีร่างคำกล่าว) ในวาระต่าง ๆ ระหว่างปี พ.ศ.2488

----------------------------------------------------------------------

เชิญนั่ง

ทหารทั้งหลาย สิ่งที่คุณได้ยินมาเกี่ยวกับการที่อเมริกาไม่ต้องการต่อสู้ ไม่อยากอยู่ในสงคราม มันเป็นเรื่องเหลวไหลสิ้นดี คนอเมริกันชอบที่จะต่อสู้ ชาวอเมริกันที่แท้จริงทุกคนรักการต่อสู้และการใช้กำลังเข้าปะทะโรมรัน เมื่อทุกคนยังเป็นเด็ก แต่ละคนต่างชื่นชมแชมผู้ชนะเลิศการแข่งขันการยิงลูกแก้ว การวิ่งแข่งขัน ดาวเด่นผู้เล่นบอลลีกระดับชาติ และนักมวยที่แข็งแกร่งที่สุด คนอเมริกันรักผู้ชนะและจะทนเป็นความเป็นผู้แพ้ไม่ได้ คนอเมริกันเล่นเพื่อชนะตลอดเวลา นั่นเป็นเหตุผลที่ชาวอเมริกันไม่เคยแพ้และจะไม่มีวันแพ้สงคราม ความคิดที่จะสูญเสียเป็นสิ่งที่ชาวอเมริกัน  เกลียดชัง การต่อสู้เป็นการแข่งขันที่สำคัญที่สุดที่ผู้ชายสามารถดื่มด่ำได้ มันดึงสิ่งที่ดีที่สุดออกมาและมันเอาทุกอย่างที่ต่ำต้อยออกไป

ท่านจะไม่ตายทั้งหมด มีเพียงสองเปอร์เซ็นต์ของเราที่นี่ในวันนี้เท่านั้นที่จะถูกสังหารในการสู้รบครั้งสำคัญ ทหารทุกคนกลัวในการกระทำการรบครั้งแรก ถ้าเขาบอกว่าไม่ใช่ เขาก็เป็นคนโกหก แต่วีรบุรุษตัวจริงคือคนที่สู้แม้จะมีความกลัว ทหารบางคนจะเอาชนะความกลัวได้ในเวลาไม่กี่นาที บางคนใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง และบางคนใช้เวลาเป็นวัน แต่ทหารแท้ไม่เคยปล่อยให้ความกลัวตายครอบงำเกียรติยศ สำนึกในหน้าที่ต่อประเทศชาติ และความเป็นลูกผู้ชายโดยกำเนิด

ตลอดอาชีพการรับใช้ชาติในกองทัพของคุณ พวกเรามักจะเรียกการฝึกว่าเหมือน 'ขี้ไก่' แต่ทั้งหมดนี้ก็เพื่อวัตถุประสงค์เพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนจะเชื่อฟังและปฏิบัติตามคำสั่งในทันทีและให้ทุกคนมีความตื่นตัวอย่างต่อเนื่อง สิ่งเหล่านี้จะต้องซึมทราบเข้าสู่ทหารทุกคน ข้าพเจ้าไม่ได้มอบความห่วยให้แก่ทหารที่ไม่ได้เรื่องได้ตลอดเวลา แต่การฝึกอย่างหนักจะทำให้ทหารทุกนายมีความเชี่ยวชาญในการรบ ทหารจะมีความพร้อมรบ ทหารต้องตื่นตัวตลอดเวลาหากเขาคาดหวังที่จะหายใจต่อไป ไม่อย่างนั้น ไอ้ลูกหมาเยอรมันบางตัวจะแอบอยู่ข้างหลังเขาและทุบตีเขาจนตายด้วยถุงเท้าที่เต็มไปด้วยขี้ มีหลุมฝังศพสี่ร้อยหลุมในซิซิลี ทั้งหมดนี้เป็นเพราะทหารยามคนหนึ่งแอบเข้าไปนอนในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ แต่มันเป็นหลุมฝังศพของทหารเยอรมัน เพราะเราจับได้ว่าไอ้สารเลวหลับไปก่อนที่ผู้บังคับบัญชาเขาจะรู้

กองทัพต้องเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน กองทัพร่วมกันอยู่ กิน นอน และต่อสู้กันเป็นทีม วีรบุรุษเพียงบุคคลเดียวเป็นเรื่องไร้สาระสิ้นดี ไอ้สารเลวที่เขียนเรื่องนั้นให้กับหนังสือพิมพ์วันเสาร์ยามบ่ายไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการรบที่แท้จริงมากไปกว่าการสมสู่ เรามีทีมที่ดีที่สุด เรามีอาหารและอุปกรณ์ที่ดีที่สุด จิตวิญญาณที่ดีที่สุด และทหารที่ดีที่สุดในโลก ทำไมละ ก็เพราะพระเจ้านะซิ ข้าพเจ้าแสนสมเพชไอ้สารเลวพวกนี้ที่เรากำลังเผชิญหน้ากับพวกมันจริง ๆ 

วีรบุรุษที่แท้จริงทุกคนไม่ใช่นักสู้ต่อสู้ในนิทาน ทหารทุกนายในกองทัพมีบทบาทสำคัญ ดังนั้นอย่ายอมแพ้ อย่าคิดว่าภารกิจของคุณไม่สำคัญ จะเป็นอย่างไรถ้าพลขับรถบรรทุกทุกนายคิดว่าเขาไม่ชอบเสียงหวีดหวิวของกระสุนปืนใหญ่ที่แหวกอากาศเข้ามาและหน้าซีดเป็นไก่ต้มกระโดดหัวทิ่มลงไปในคูน้ำ? ไอ้ขี้ขลาดนั่นอาจพูดกับตัวเองว่า 'ให้ตายเถอะ พวกเขาไม่คิดถึงกูหรอก เพราะกูเป็นแค่หนึ่งในพันนาย' จะเกิดอะไรขึ้นถ้าทหารทุกนายพูดอย่างนั้น? จากนั้นพวกเราจะไปอยู่ในนรกขุมไหน ไม่ ขอบคุณพระเจ้า ที่ทหารอเมริกันไม่พูดแบบนั้น ทหารทุกนายปฏิบัติหน้าที่ตามที่เขาได้รับมอบ ทหารทุกนายมีความสำคัญ ทหารสรรพาวุธมีความจำเป็นในการจัดหาอาวุธกระสุน ทหารพลาธิการมีความจำเป็นในการเตรียมอาหารและเสื้อผ้ามาให้เรา เพราะว่าสถานที่ที่เราจะไปนั้นไม่มีนรกที่จะมีสิ่งของให้เราขโมยมาใช้ได้มากนัก ไอ้บักหำคนสุดท้ายในโรงประกอบเลี้ยง แม้ว่าจะเป็นเพียงทหารที่ต้มน้ำหุงหาอาหารให้พวกเรากินก็มีคุณค่าและมีหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย

ทหารแต่ละคนต้องไม่คิดถึงแต่ตัวเองเท่านั้น แต่ให้นึกถึงเพื่อนของเขาที่ต่อสู้เคียงข้างเขาด้วย เราไม่ต้องการคนขี้ขลาดตาขาวในกองทัพ พวกมันเหล่านั้นสมควรถูกฆ่าเหมือนแมลงวัน ถ้าไม่เช่นนั้นแล้ว พวกขี้ขลาดบ้าบอจะกลับบ้านหลังสงคราม แล้วไปเพาะพันธุ์คนขี้ขลาดให้มากขึ้น มีแต่ผู้กล้าหาญเท่านั้นที่จะเพาะพันธุ์ผู้กล้าหาญให้มากขึ้น กำจัดพวกขี้ขลาดให้สิ้น แล้วเราจะมีชาติที่มีแต่ผู้กล้าหาญ

ทหารที่กล้าหาญที่สุดคนหนึ่งที่ข้าพเจ้าได้พบในระหว่างสงครามแอฟริกาอยู่บนเสาโทรเลขท่ามกลางไฟที่โหมกระหน่ำขณะที่ข้าพเจ้ากำลังมุ่งหน้าไปยังเมืองตูนิส ข้าพเจ้าได้หยุดรถและถามเขาว่าเขากำลังทำอะไรอยู่บนนั้น เขาตอบว่า 'ซ่อมสายไฟครับท่าน' 'ตอนนี้มันจะไม่เสี่ยงต่อชีวิตไปหน่อยเหรอ' ข้าพเจ้าถาม 'ครับท่าน แต่สายไฟบ้าๆ นี่ต้องได้รับการซ่อม' ข้าพเจ้าถามต่อว่า 'แล้วเครื่องบินที่ยิงกราดเหล่านั้นไม่ทำอันตรายแกหรือ?' และเขาตอบว่า 'ไม่ครับ แต่ท่านแน่ใจได้ว่าการกราดยิงจากเครื่องบินก็เหมือนนรกดี ๆ นั่นเอง' ตอนนี้มีทหารจริง ลูกผู้ชายที่แท้จริง ลูกผู้ชายผู้อุทิศตนทั้งหมดที่มีให้กับหน้าที่ของเขา ไม่ว่าจะมีอุปสรรคมากเพียงใด ไม่ว่าหน้าที่ของเขาจะดูเล็กน้อยเพียงใดในเวลานั้น

และคุณน่าจะได้เห็นรถบรรทุกบนถนนสู่เมืองกาเบส พลขับเหล่านั้นยอดเยี่ยมมาก พวกเขาขับรถคืบคลานไปตามถนนลูกรังเหล่านั้นทั้งวันทั้งคืน ไม่เคยหยุด ไม่เคยเบี่ยงเบนไปจากเส้นทางทั้ง ๆ ที่มีกระสุนปืนใหญ่ตกระเบิดกระจายรอบตัว พลขับหลายนายขับรถติดต่อกันเกิน 40 ชั่วโมง เราได้ส่งผ่านความกล้าหาญแบบอเมริกันดั่งเดิมที่ดีมายังทหารปัจจุบัน ทหารเหล่านี้ไม่ใช่เหล่ารบ แต่พวกเขาเป็นทหารที่มุ่งมั่นให้งานที่รับผิดชอบบรรลุความสำเร็จ พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของทีม หากไม่มีพวกเขาแล้วการสู้รบก็จะสิ้นสุดที่ความปราชัย

แน่นอนว่าเราทุกคนต้องการกลับบ้าน เราต้องการให้สงครามนี้จบลงด้วย แต่เรายังไม่สามารถเอาชนะสงครามได้ วิธีที่เร็วที่สุดในการทำให้มันจบคือ ไปตามหาและจัดการไอ้ลูกหมาตัวที่เริ่มสงคราม เราต้องการไปที่พวกมันอยู่และทำลายล้างสิ่งที่น่ารังเกียจให้สิ้นไป จากนั้นเราจะไปจัดการกับไอ้ยุ่นปี่ฉี่สีม่วง ยิ่งพวกมันถูกลงโทษได้เร็วเท่าไหร่ พวกเราก็กลับบ้านได้เร็วเท่านั้น เส้นทางกลับบ้านที่สั้นที่สุดคือผ่านเบอร์ลินและโตเกียว ดังนั้นจงก้าวต่อไป และเมื่อเราไปถึงเบอร์ลิน ฉันจะยิงฮิตเล่อร์ไอ้ลูกหมาที่ห้อยกระดาษนั่นเป็นการส่วนตัว

เมื่อทหารนายหนึ่งเอาแต่นอนหลบอยู่ในโพรงกันสะเก็ดระเบิด ถ้าเขาแอบอยู่ในรูนั่นทั้งวันทั้งคืน ทหารเยอรมันก็จะหาเขาเจอในที่สุด นรกก็จะบังเกิ ทหารของข้าพเจ้าไม่ขุดหลุมบุคคล หลุมบุคคลทำให้การโจมตีช้าลงเท่านั้น บุกไปข้างหน้า เราจะชนะสงครามครั้งนี้ แต่เราจะชนะได้โดยการต่อสู้และแสดงให้ชาวเยอรมันเห็นว่าเรามีความกล้ามากกว่าที่พวกเขามีหรือเคยมีมา เราไม่ได้แค่จะยิงไอ้สารเลวเท่านั้น เราจะควักไส้ในของพวกมันออกมาและใช้มันชโลมดอกยางของรถถังของเรา เราจะฆ่าพวกฮั่นนี้ให้สิ้นซาก

          พวกเราบางคนสงสัยว่าตนเองจะได้รับความเดือดร้อยหรือไม่ ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับมัน ข้าพเจ้าขอรับรองว่าให้พวกเราทุกนายทำหน้าที่ที่ได้รับมอบ สงครามเป็นเรื่องของการนองเลือด กิจกรรมที่ต้องฆ่าฟัน พวกนาซีเป็นศัตรู ลุยเข้าไป เอาเลือดของมันออกมา มิเช่นนั้นพวกมันจะเอาเลือดของเราออกมาแทน ยิงพวกเขาไปที่หน้าอก ฉีกเปิดท้องของพวกมัน เมื่อกระสุนกระทบรอบตัวคุณ และคุณเช็ดสิ่งสกปรกออกจากใบหน้าของคุณ และคุณรู้ว่ามันไม่ใช่สิ่งสกปรก แต่เป็นเลือดและไส้ของสิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณ คุณจะรู้ว่าต้องทำอย่างไร

ฉันไม่ต้องการข้อความใดที่แจ้งว่า 'ข้าพเจ้ารักษาที่มั่นได้แล้ว' เราไม่ได้มาเพื่อรักษาที่มั่นงบ้าๆบอๆ แห่งไหน เราต้องรุกอย่างต่อเนื่องและเราไม่สนใจที่จะครอบครองสิ่งใดนอกจากไข่ของศัตรู เราจะจับเขาที่ไข่และจะเตะเขาที่ก้น บิดไข่ของมันและนำวิญญาณของมันออกจากร่างตลอดเวลา แผนปฏิบัติการของเราคือ การบุกไปข้างหน้าและรักษาการบุกอย่างต่อเนื่อง เราจะบุกผ่านที่มั่นของศัตรูให้เหมือนอุจจาระที่ไหลผ่านท่อ

          จะมีเสียงบ้างที่บ่นว่าเรากดดันทหารของเรามากเกินไป ข้าพเจ้าไม่ได้สนใจเรื่องร้องเรียนดังกล่าว ข้าพเจ้าเชื่อว่าเหงื่อเพียงหนึ่งออนซ์จะช่วยประหยัดเลือดได้หนึ่งแกลลอน ยิ่งเรารุกหนักเท่าไหร่ เรายิ่งฆ่าทหารเยอรมันได้มากขึ้นเท่านั้น ยิ่งเราฆ่าทหารเยอรมันมากเท่าไหร่ ทหารของเราก็จะถูกฆ่าน้อยลงเท่านั้น การผลักดันที่หนักขึ้นหมายถึงการบาดเจ็บล้มตายที่น้อยลง ข้าพเจ้าอยากให้ทุกคนจดจำไว้ว่า ทหารของข้าพเจ้าจะไม่ยอมจำนน ฉันไม่ต้องการได้ยินว่าทหารภายใต้คำสั่งของข้าพเจ้าถูกจับเว้นแต่จะบาดเจ็บจากการถูกยิง แต่ถึงแม้ว่าจะโดนยิงแต่ก็ยังสู้ได้ นั่นไม่ใช่แค่เรื่องไร้สาระเช่นกัน ข้าพเจ้าต้องการคนอย่างผู้หมวดในลิเบีย ซึ่งถูกปืนลูเกอร์จี้ที่หน้าอก ใช้มือหนึ่งปัดปืนออก อีกมือหนึ่งเหวี่ยงหมวกเหล็กออก และทำร้ายทหารเยอรมันด้วยหมวกเหล็ก จากนั้นเขาก็หยิบปืนขึ้นมาและฆ่าชาวเยอรมันอีกคน ตลอดเวลาการต่อสู้ผู้หมวดนายนี้มีลูกกระสุนทะลุปอด นั่นและคือลูกผู้ชายสำหรับคุณ

อย่าลืมว่า ทุกคนไม่รู้ว่าข้าพเจ้าอยู่ที่นี่เลย ต้องไม่มีการกล่าวถึงการปรากฎตัวของข้าพเจ้าในจดหมายใดๆ โลกทั่งใบไม่ควรจะรู้ว่าพวกเขาทำบ้าอะไรกับข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่ควรเป็นผู้บังคับบัญชากองทัพนี้ ข้าพเจ้าไม่ควรอยู่ในอังกฤษด้วยซ้ำ ให้ไอ้เวรพวกแรกที่รู้เรื่องนี้เป็นไอ้พวกเยอรมัน สักวันหนึ่ง ฉันอยากให้พวกมันลุกขึ้นยืนบนขาหลังที่เปียกโชกไปด้วยฉี่ของมันแล้วร้องว่า 'อ๊าก! นี่มันคือ หน่วยบรรลัยจักรกองทัพสนามที่ 3 ของ แพ็ตตันไอ้สารเลวนั่นอีกแล้ว!'

ท้ายทีสุด มีสิ่งหนึ่งที่พวกคุณจะพูดได้เมื่อสงครามนี้จบลงและคุณกลับบ้าน สามสิบปีนับจากนี้ เมื่อคุณนั่งข้างเตาผิงกับหลานชายที่คุกเข่า แล้วเขาถามว่า 'คุณทำอะไรในสงครามโลกครั้งที่สอง' คุณไม่ต้องไอและพูดว่า 'ก็คุณปู่คุณโกยขี้อยู่ในหลุยเซียน่า' ไม่ครับ คุณสามารถมองตาเขาตรง ๆ แล้วพูดว่า 'หลานเอ๋ย คุณปู่ของหลายได้ไปลุยกับกองทัพที่ 3 ที่ยิ่งใหญ่กับไอ้ลูกหมาชื่อ จอร์จ แพตตัน!' 

เอาล่ะ เจ้าพวกลูกหมา ทุกคนรู้ว่าข้าพเจ้ารู้สึกอย่างไร ข้าพเจ้าจะภูมิใจในการเป็นผู้นำเราทุกคนที่ยอดเยี่ยมในการต่อสู้ทุกที่ทุกเวลา นั่นคือทั้งหมด

 

----------------------------------------------------------------------

-        เนื้อหาภาษาอังกฤษ ได้มาจากบางส่วนของ George S. Patton's speech to the Third Army https://en.wikipedia.org/wiki/George_S._Patton%27s_speech_to_the_Third_Army

-        แปลขั้นต้นเป็นภาษาไทยด้วย Google Translate

-        ปรับแก้โดย พล.อ. เบญจพล รังษีภาณุรัตน์ เมื่อ 24 เม.ย.66

-        ข้อความ ‘Now I want you to remember, that no bastard ever won a war by dying for his country. You won it, by making the other poor dumb bastard die for his country.’ ซึ่งแปลได้ว่า ณ เวลานี้ ข้าพเจ้าอยากให้ทหารทุกนายจดจำไว้ว่า ไม่มีไอ้สารเลวคนไหนเคยชนะสงครามด้วยยอมตายเพื่อประเทศของเขา  เราต้องชนะด้วยการทำให้ไอ้โง่ที่น่าสงสารอีกคนตายเพื่อประเทศของเขา สุภาพบุรุษทั้งหลาย เป็นคำกล่าวของ พล.อ. จอร์จ แพ็ตตัน กล่าวต่อกำลังพลของกองพลยานเกราะที่ 6 เมื่อ 31 พ.ค.2488 โดยไม่ได้รวมอยู่ในสุนทรพจน์หลัก

-        ----------------------------------------------------------------------

 

 

วันอังคารที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ข้อมูล “ท่าย์น้ำข้ามภพ”

1.     ท่าย์น้ำข้ามภพ “ตลาดริมน้ำแห่งความภาคภูมิใจของคนเพชร”
2. ท่าย์น้ำข้ามภพ เป็นสถานที่บริเวณสองฝั่งแม่น้ำริมแม่น้ำเพชรบุรีในพื้นที่ของอำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งประชาชนของตำบลท่ายางและตำบลยางหย่องได้เสียสละ ร่วมมือกันสร้างและพัฒนาขึ้นเพื่อให้เป็นตลาดริมน้ำ โดยมีลักษณะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม อนุรักษ์ธรรมชาติ  และสถานที่พักผ่อนเพื่อการสันทนาการที่เหมาะทั้งครอบครัวและหนุ่มสาว
3.   ความหมายของคำประกอบ ท่าย์ หมายถึงท่ายาง น้ำหมายถึงแม่น้ำเพชรบุรี ท่าย์น้ำจึงหมายถึงสถานที่บริเวณริมแม่น้ำเพชรบุรีของอำเภอท่ายาง  ข้ามภพ หมายถึง จุดพบบรรจบกันอย่างลงตัวของความต่างทั้งในแง่มิติของเวลา สภาวะแวดล้อมทางกายภาพ รวมถึงความคิดความเชื่อของแต่ละบุคคลที่ไม่เหมือนกัน
4. วิสัยทัศน์ : ท่าย์น้ำข้ามภพ เป็นตลาดริมแม่น้ำเพชรบุรีสำหรับหนุ่มสาวและครอบครัว แหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ศิลปะ วัฒนธรรมและอนุรักษ์ธรรมชาติที่สร้างสรรค์และพัฒนาโดยประชาชนอย่างยั่งยืน
5.  ความเป็นมาก่อนการเป็นตลาดริมน้ำ
5.1 ในอดีตนับร้อยปี อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี เป็นแหล่งชุมชนที่มีอารยธรรมรุ่งเรืองและความเจริญ ควบคู่กับความอุดมสมบูรณ์ของแม่น้ำเพชรบุรี ซึ่งเป็นแม่น้ำที่มีความสำคัญของประเทศ  ไม่ว่าในแง่การใช้บริโภค การทำการเกษตร เส้นทางคมนาคม หรือการค้าขาย แต่หลังจากมีการพัฒนาและจัดสรรน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด ระบบประปาเจริญขึ้น และเส้นคมนาคมทางบกมาแทนที่เส้นทางสัญจรและการค้าทางน้ำ  แม่น้ำเพชรบุรีจึงด้อยคุณค่าลง และท่าน้ำของท่ายางที่เคยเป็นจุดศูนย์กลางการค้าขายได้กลายเป็นแหล่งเสื่อมโทรมและที่ทิ้งขยะสิ่งปฏิกูลนานนับสิบปี
5.2 พ.ศ. 2551 – 2554 ประชาชนของตำบลท่ายางและตำบลยางหย่อง ได้เล็งเห็นความสำคัญของประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ เศรษฐกิจของอำเภอท่ายางและแม่น้ำเพชรบุรี และเชื่อมั่นว่ามีศักยภาพเพียงพอที่จะสร้างสรรค์สิ่งนั้นให้กลับมารุ่งเรืองได้ จึงได้ร่วมกันพัฒนาพื้นที่สองฝั่งของแม่น้ำเพชรบุรีที่ไหลผ่านตลาดท่ายางให้มีความใสสะอาดสวยงาม เมื่อพัฒนาขั้นต้นแล้วได้ใช้เป็นสถานที่จัดงานก่อพระเจดีย์ทรายประเพณีร้อยปีของชุมชน ซึ่งประสพความสำเร็จเป็นอย่างดี ผู้นำชุมชนจึงมีความเห็นร่วมว่าควรจะพัฒนาสถานที่แห่งนี้แบบยั่งยืน  ด้วยการจัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สร้างโดยประชาชน และเลี้ยงตัวเองได้  จึงกำหนดรูปแบบเป็นตลาดริมน้ำ ตั้งชื่อว่า ท่าย์น้ำข้ามภพ ซึ่งเปิดตัวเมื่อวันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยนายสุรชัย อังเกิดโชค รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรีให้เกียรติเป็นประธาน ซึ่งผลการตอบรับจากนักท่องเที่ยวทั้งในและนอกพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีอยู่ในระดับดีถึงดีมาก
6.  วัตถุประสงค์การก่อตั้งท่าย์น้ำข้ามภพมี 4 ประการ คือ
6.1 เพื่อสร้างความภาคภูมิใจแก่ประชาชนท่ายางและเพชรบุรี เรื่องการมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และอนุรักษ์ธรรมชาติ อันจะเป็นการส่งเสริมวัฒนธรรมและองค์ความรู้ของจังหวัดเพชรบุรีได้เป็นอย่างดี
6.2   เพื่อปลุกจิตสำนึกของประชาชนให้เห็นถึงความรุ่งเรืองของท่ายางในอดีต แล้วเกิดความรู้สึกร่วม ในการเสียสละ และร่วมมือพัฒนาให้เจริญก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น รวมทั้ง สร้างความสุขให้เกิดขึ้นแก่ประชาชนโดยรวม
6.3    เพื่ออนุรักษ์ธรรมชาติของแม่น้ำเพชรบุรีอย่างยั่งยืน สามารถใช้เป็นแม่แบบให้แก่ชุมชนอื่นได้   และ
6.4    เพื่อสร้างงาน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและแก้ปัญหาสังคม อันจะนำมาซึ่งความเจริญและอยู่ดีกินดีของประชาชน
7.  กลุ่มเป้าหมาย นักท่องเที่ยวจากกรุงเทพ จังหวัดอื่น และนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ โดยคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะมีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยฝั่งท่ายางนักท่องเที่ยวจะชะลอตัวลงช่วงก่อสร้างกำแพงกันดินชายฝั่งและน้ำท่วมเดือนตุลาคม  หลังจากนั้นจะเริ่มเพิ่มสูงขึ้นอีกไปจนถึงเมษายน 2555
8.  เป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเกิดขึ้นภายใน  14 พ.ค.55
8.1      กิจกรรม 20 กิจกรรมต่อวัน
8.2      ร้านค้า 200 ร้านต่อวัน มีกำไรต่อ 500 บาท/คน/วัน
8.3      นักท่องเที่ยว วันละ 2,500 คนต่อวัน
8.4      ชาวท่ายางวันละ 500 คนต่อวัน
8.5      สร้างเครือข่ายท่องเที่ยวรัศมี 10 กม. 5 แห่ง
8.6      ค่าใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยว 200 บาทต่อคน คิดเป็นเงินไหลเวียนวันละ 500,000 บาท
9. สถานที่ตั้ง : สวนริมน้ำ ฅนรักษ์ท่าย์ ริมแม่น้ำเพชรบุรี สุดซอยเทศบาล 10 และ 12 หมู่ 1 ต.ท่ายาง และฝั่งยางหย่อง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี   (พิกัด Lat 12° 58' 27.14" N Long 99° 53' 21.83" E )
10.  วันเวลาเปิดทำการ : ทุกวันเสาร์อาทิตย์
11.  ข้อมูลและรูปภาพเพิ่มเติม Facebook Page – ท่าย์น้ำข้ามภพ
12.  รูปแบบการดำเนินการ
12.1 การดำเนินการทั้งระบบเกิดจากประชาชนตำบลท่ายางและยางหย่องเป็นหลัก การก่อสร้างและพัฒนาขั้นต้นและวัตถุถาวรขนาดใหญ่ได้จากเงินบริจาคและจิตศรัทธาของประชาชน โดยหน่วยงานรัฐ/ท้องถิ่นให้การสนับสนุน  เพื่อให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนเชิงประวัติศาสตร์ อนุรักษ์ธรรมชาติและแม่น้ำเพชรบุรี และหารายได้จากตลาดริมน้ำเป็นค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา 
12.2 คณะกรรมการบริหารปัจจุบันเป็นคณะกรรมการชั่วคราว ซึ่งประกอบด้วย 4 ส่วนหลัก ได้แก่ คณะบริหารกลาง คณะบริหารจากชุมชนท่ายาง คณะบริหารจากยางหย่อง และคณะที่ปรึกษา โดยในส่วนของคณะบริหารกลางประกอบด้วย   นายปรีชา ผ่องใส กำนันตำบลท่ายาง นางวันทนา เก่งทอง ร้านทองม้วนแม่เล็ก นายสกล ศุภลักษณ์เลิศกุล ผู้จัดการบริษัทพีเค จำกัด นายประกิจ สุดเดือน ประธานชุมชนย่อยศาลเจ้าท่ายาง นางสาวแสงวรรณา อยู่แย้ม กำนันตำบลยางหย่อง และนายปราโมทย์ พุ่มทอง ประธานสภา อบต.ยางหย่อง มีหน้าที่ในการกำหนดยุทธศาสตร์การบริหารในภาพรวม ในส่วนของคณะบริหารจากชุมชนท่ายาง(ทุกชุมชนย่อยและอาจรวมไปถึงท่าคอย) คณะบริหารจากยางหย่อง จัดจากผู้แทนชุมชนของแต่ละฝั่งจำนวน 10 – 15 คนต่อคณะ มีหน้าที่กำหนดแนวทางการปฏิบัติหรือกลยุทธ์การจัดการกิจกรรม ร้านค้าและการบริหารของแต่ฝั่ง ในส่วนของคณะที่ปรึกษา จะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้คำแนะนำ สนับสนุน และประสานงานในเรื่องที่เหนือขีดความสามารถของกรรมการ โดยการทำงานของทั้ง 4 ส่วนจะมีการประสานสอดคล้องกันโดยการประสานงานของ พ.อ.เบญจพล รังษีภาณุรัตน์ คณะกรรมการบริหารชั่วคราวจะส่งมอบความรับผิดชอบให้แก่คณะกรรมการถาวรซึ่งอยู่ระหว่างการจัดทำร่างฯ ซึ่งคาดว่าจะไม่เกินเดือน ก.ย.54 หรือช้าที่สุดไม่เกิน 31 ธ.ค.54
13.  การบริหารการเงิน
13.1  ยืมเงินกองกลางจากกำไรก่อพระเจดีย์ทราย  คงค้าง 20,000 บาท และเงินสนับสนุนกึ่งบริจาคของกรรมการ
13.2   รายได้หลักจากเงินค่าเช่า และร้านค้าชุมชน ประมาณอาทิตย์ละ 12,000 บาท
13.3 รายจ่าย ค่าไฟฟ้า ค่าขยะ ประชาสัมพันธ์ อปพร. จราจร ตกแต่งสถานที่ ตัดหญ้า ซ่อมแซม ประมาณอาทิตย์ละ 10,000 บาท
13.4   มีการชี้แจงกรรมการทุกอาทิตย์ โดยมี น.ส.ณัฐญาภรณ์ กาญจนภูษิต หรือเจ๊เลี้ยง เป็นเหรัญญิก
13.5  ในส่วนของท่ายาง หากมีกำไรจะให้ชุมชนศาลเจ้าท่ายางและกำนันดูแล โดยเปิดบัญชีธนาคารออมสิน ใช้ 2 ใน 3 ชื่อในการเบิกเงิน
14.   ผู้ให้การสนับสนุน
14.1     จังหวัดเพชรบุรี (ผวจ.เพชรบุรี และ รอง ผวจ.เพชรบุรี (1, 2))
14.2     คุณบุญสม นุชนิยม ประธานอุตสาหกรรมจังหวัดเพชรบุรี
14.3     นายชัยยะ อังกินันท์ และองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบุรี
14.4     คุณนฤมล กิจพ่วงสุวรรณ และเทศบาลตำบลท่ายาง
14.5     นายสามารถ อินทร์ปรุง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอท่ายาง
14.6     นายศักดิ์สิทธิ์ วิบูลย์ศิลป์โสภณ นายกสมาคมสื่อมวลชนเพชรบุรี หนังสือพิมพ์เพชรภูมิ เพชรบุรีเคเบิลทีวี
14.7     ททท. สำนักงานเพชรบุรี
14.8     คณะวิทยาการการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
15.   กิจกรรมของท่าย์น้ำข้ามภพเป็นกิจกรรมที่มุ่งเน้นนักท่องเที่ยวทั้งแบบครอบครัวและหนุ่มสาว
15.1   กิจกรรมเด่น ประกอบด้วย สะพานข้ามภพ นั่งเรือพายชมแม่น้ำเพชร นั่งแพไม้ไผ่ข้ามน้ำ การถ่ายภาพ
15.2 กิจกรรมครอบครัว/สันทนาการ ประกอบด้วย ทำบุญปล่อยปลา การเล่นน้ำ ขี่จักรยานเลียบแม่น้ำ สนามเด็กเล่น สวนพักผ่อน การร่วมร้องเพลง นวดแผนไทย ลีลาศ
15.3 กิจกรรมตลาดริมน้ำ ประกอบด้วย อาหารท้องถิ่น อาหารทั่วไป สินค้าที่ระลึก สินค้าการเกษตร ผักผลไม้ปลอดสารพิษ สินค้า OTOP
15.4 กิจกรรมทางศิลปวัฒนธรรม  ประกอบด้วย การแสดงวัฒนธรรมท้องถิ่น การแสดงภาพเก่า การแสดงสิ่งของหัตถกรรม การแสดงของเก่า กิจกรรมของนักเรียน
16.  การดำเนินการในปัจจุบัน
16.1   การรักษาความปลอดภัยกิจกรรม
16.2   การเสริมสร้างความรู้ให้แม่ค้า
16.3   การเพิ่มกิจกรรมดึงดูดนักท่องเที่ยว การแสดงของนักเรียน
16.4   โครงการคืนหาดทรายให้แม่น้ำเพชร
16.5   การปรับปรุงภูมิทัศน์และสร้างห้องสุขา
16.6   ล่องเรือชมธรรมชาติและย้อนอดีตลำน้ำเพชร
16.7   การจัดตั้งคณะกรรมการบริหารถาวรที่มีความสามารถและจัดทำระเบียบที่เหมาะสม
16.8     การประสานกับหน่วยงานรัฐส่วนกลาง เช่น พาณิชย์จังหวัด กรมเจ้าท่า เพื่อขอรับการสนับสนุน
16.9     ส่งเสริมความรู้การบริหารและประสบการณ์ให้คณะกรรมการ
17. โครงการต่อไปในอนาคต
17.1   เพิ่มการจัดตลาดในวันหยุดนักขัตฤกษ์ เช่น ทอดกฐิน ปีใหม่ วันหยุดยาว วันประเพณีทางศาสนา
17.2   การสร้างมาตรฐานตลาดริมน้ำ และสุขวิทยาอนามัยที่ถูกต้อง
17.3     ทัศนาจรและไหว้พระ 10 วัด + 1 ท่าย์น้ำ (เริ่มเดินทางด้วยรถยนต์จากท่าย์ข้ามภพ 1.วัดเขาพรมชะแง้ 2.วัดตาลกง 3.วัดเขากระจิว 4.วัดชายนา 5.วัดท่ากระเทียม  ลงเรือล่องน้ำไป 6.วัดท่าคอย 7.วัดท่าโล้ ขึ้นรถต่อไป 8.วัดท่าเหว 9.วัดเขื่อนเพชร 10.วัดท่าขาม และสุดท้ายที่ท่าย์น้ำข้ามภพ ถ้าไม่ลงเรือเริ่มเดินทางด้วยรถยนต์จากท่าย์ข้ามภพ 1.วัดเขาพรมชะแง้ 2.วัดตาลกง 3.วัดเขากระจิว 4.วัดชายนา 5.วัดท่ากระเทียม  6.วัดท่าโล้ 7. วัดท่าเหว 8. วัดเขื่อนเพชร 9. วัดท่าขาม 10. วัดท่าคอย และสุดท้ายที่ท่าย์น้ำข้ามภพ )
17.4   จัดตั้งมูลนิธิท่าย์น้ำข้ามภพ
17.5   จัดตั้งกองทุนหรือธนาคารท่าย์น้ำข้ามภพ
17.6   จัดหาสถานที่ศูนย์ประสานงานท่าย์น้ำข้ามภพ
17.7   กางเต็นท์ โฮมเสตย์ เท็มเปิลสเตย์ รีสอร์ท ที่พัก
17.8   เชิญชวนลูกเกิดท่ายางกลับมาสร้างบ้านเกิด
17.9   มอบความรับผิดชอบทั้งหมดให้คณะกรรมการถาวรซึ่งเป็นที่ยอมรับของส่วนรวม
18.  สิ่งที่ต้องการจากคนท่ายาง
18.1    แรงใจและศรัทธาปรารถนาให้ท่ายางเจริญรุ่งเรือง
18.2   ช่วยกันสร้างบรรยากาศแห่งมิตรไมตรี
18.3   มีจิตใจในการต้อนรับนักท่องเที่ยว
18.4   พูดแต่เรื่องดี โดยปัญหาหากมีให้แก้กันภายใน
19. บทสรุป : ท่าย์น้ำข้ามภพ เปรียบเสมือนฝันที่เป็นความจริงของคนท่ายาง ที่อยากเห็นเพชรบุรีมีสถานที่ท่องเที่ยวแบบตลาดริมน้ำ เฉกเช่นจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งได้ผ่านขั้นตอนการทดสอบความมุ่งมั่นศรัทธามาแล้ว 7 ครั้ง  อย่างไรก็ตามสิ่งที่ยากยิ่งกว่าคือ การดำรงอยู่และพัฒนาให้ดีขึ้นจนกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่คนไทยและต่างประเทศปรารถนาที่จะมาเยือน และเป็นความภาคภูมิใจของคนเพชรบุรีนั้น ย่อมจะต้องได้รับการสนับสนุนทั้งทางกำลังใจ กำลังความคิด และกำลังแรง จากทุกท่านและหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้รับผิดชอบและผู้ที่สานงานต่อที่จะหมุนเวียนเข้ามารับหน้าที่หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านคงจะได้รับความเมตตา ให้การสนับสนุนและเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินงานของ ท่าย์น้ำข้ามภพ ให้คงอยู่อย่างพัฒนาถาวรและเป็น “ท่าย์น้ำของประชาชน” ตลอดไป
               
****************************************************

สรุปโดย พ.อ.เบญจพล รังษีภาณุรัตน์ เมื่อ 19 ก.ค. 54